การโอนถนนในโครงการจัดสรรที่ดินที่ได้รับใบนุญาตจัดสรร ให้กลายเป็นถนนสาธารณประโยชน์นั้น จะไม่สามารถทำได้โดยทันที เนื่องจากมีพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 กำหนดให้ผู้จัดสรรที่ดิน มีหน้าที่ต้องบำรุงรักษาสาธารณูปโภคในโครงการจัดสรรที่ดิน หากต้องการพ้นจากหน้าที่ในการบำรุงรักษาสาธารณูปโภค จะต้องดำเนินการตามลำดับ ดังนี้
1. แจ้งและจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร
ผู้จัดสรรที่ดินมีหน้าที่ต้องแจ้งผู้ซื้อที่ดินในโครงการ เพื่อดำเนินการจัดตั้ง นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร ตามพระราชบัญญัติการจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 หรือ นิติบุคคลตามกฎหมายอื่น เพื่อรับโอนทรัพย์สิน เช่น ถนนและสาธารณูปโภคต่างๆ ไปจัดการและบำรุงรักษา โดยมีเงื่อนไขดังนี้
- ผู้จัดสรรต้องกำหนดระยะเวลาไม่น้อยกว่า 180 วัน นับตั้งแต่วันที่แจ้งแก่ผู้ซื้อ เพื่อให้มีการจัดตั้งนิติบุคคลดังกล่าว
2. เสนอมาตรการอื่นหากจัดตั้งนิติบุคคลไม่ได้
หากผู้ซื้อที่ดินในโครงการไม่สามารถจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรได้ตามที่กำหนด ผู้จัดสรรที่ดินต้องเสนอแผนหรือวิธีการบำรุงรักษาสาธารณูปโภคต่อ คณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัด เพื่อพิจารณาแผนดังกล่าว เช่น
- การดูแลรักษาโดยหน่วยงานเอกชน
- การตั้งกองทุนเพื่อสนับสนุนการบำรุงรักษา
ทั้งนี้ แผนหรือมาตรการที่เสนอจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการจัดสรรที่ดินจังหวัดก่อน หากแผนที่เสนอไม่ได้รับการอนุมัติ จะต้องดำเนินการตามขั้นตอนถัดไป
3. ผู้จัดสรรที่ดินขอจดทะเบียนโอนทรัพย์สินดังกล่าวให้เป็น สาธารณประโยชน์
เมื่อไม่สามารถดำเนินการในสองขั้นตอนแรกได้ ผู้จัดสรรที่ดินจึงจะมีสิทธิดำเนินการขอจดทะเบียนโอนทรัพย์สิน เช่น ถนนในโครงการ ให้เป็น สาธารณประโยชน์ ตามที่กฎหมายกำหนดได้
ดังนั้น การโอนถนนให้เป็นสาธารณประโยชน์ไม่ใช่กระบวนการที่สามารถทำได้โดยทันที แต่ต้องปฏิบัติตามขั้นตอนที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัด เพื่อให้เป็นไปตามข้อกฎหมายและประโยชน์สูงสุดต่อผู้อยู่อาศัย