การเลือกที่ดินเป็นขั้นตอนสำคัญในการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร เพื่อให้ได้ที่ดินที่เหมาะสมที่สุดและคุ้มค่ากับการลงทุน เราจะมาแบ่งปัน 10 วิธีเลือกที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ที่สามารถช่วยให้คุณวางแผนและตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น
1. ทำเลที่ตั้งต้องดี
ทำเลคือหัวใจสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางเข้า-ออก ที่ง่าย สะดวกต่อการเดินทาง หรืออยู่ใกล้กับสิ่งอำนวยความสะดวกอย่างเช่นโรงเรียน ห้างสรรพสินค้า และโรงพยาบาล ทำเลที่ดีจะช่วยเพิ่มมูลค่าของโครงการได้ในระยะยาว
2. โครงสร้างพื้นฐานครบครัน
ที่ดินควรมีโครงสร้างพื้นฐานครบ เช่น ระบบไฟฟ้า น้ำประปา ถนนสาธารณะที่สะดวกสบาย เพราะสิ่งเหล่านี้จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาโครงการ ทำให้เราไม่ต้องเสียเงินวางระบบสาธารณูปโภคใหม่ รวมทั้งยังเป็นจุดขายที่ดึงดูดลูกค้าได้อีกด้วย
3. ศึกษาแผนพัฒนาพื้นที่ ของภาครัฐ
การตรวจสอบแผนพัฒนาเมืองจากหน่วยงานรัฐหรือโซนนิ่ง (Zoning) เป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้แน่ใจว่าที่ดินที่เลือกสามารถพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรได้ และไม่ขัดต่อกฎหมายหรือระเบียบในพื้นที่นั้น ๆ
4. ประเมินสภาพภูมิประเทศ
สภาพภูมิประเทศเป็นสิ่งที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ เช่น ความลาดเอียงของที่ดิน น้ำท่วมง่ายหรือไม่ หรือมีความเสี่ยงจากภัยธรรมชาติอื่น ๆ หรือเปล่า การเลือกที่ดินที่มีสภาพภูมิประเทศดีจะช่วยลดปัญหาในการก่อสร้างและการจัดสรรพื้นที่ในอนาคต
5. ตรวจสอบประวัติที่ดิน
ก่อนจะตัดสินใจซื้อที่ดิน ควรตรวจสอบประวัติและเอกสารสิทธิ์ให้ละเอียด รวมทั้งตรวจสอบว่าที่ดินนั้นมีข้อพิพาททางกฎหมายหรือไม่ การมีข้อมูลที่ชัดเจนจะช่วยป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
6. ราคาซื้อขายเหมาะสม
ราคาที่ดินเป็นต้นทุนพัฒนาโครงการที่สำคัญ จะได้กำไรมากหรือน้อยนั้น ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กับราคาที่ดินด้วย ดังนั้นควรทำการเปรียบเทียบราคาที่ดินในพื้นที่ใกล้เคียงและเจรจาให้ได้ราคาที่เหมาะสม รวมถึงคำนึงถึงศักยภาพในการเพิ่มขึ้นของมูลค่าของที่ดินในอนาคตนั้นด้วย
7. การเข้าถึงและระบบคมนาคม
ที่ดินควรอยู่ใกล้กับเส้นทางคมนาคมหลัก หรือมีระบบขนส่งสาธารณะที่ดี เช่น รถไฟฟ้า รถประจำทาง เพราะการเดินทางที่สะดวกจะเป็นปัจจัยสำคัญในการอยู่อาศัย
8. ขนาดและรูปร่างของที่ดิน
ขนาดและรูปทรงของที่ดินควรเหมาะสมกับการพัฒนาโครงการ ที่ดินที่มีขนาดใหญ่เกินไปหรือรูปทรงแปลก ๆ อาจทำให้การออกแบบโครงการเป็นไปอย่างยากลำบาก อาจทำให้ได้ Efficiency ต่ำ และเพิ่มต้นทุนอีกด้วย
9. ตรวจสอบสิ่งแวดล้อมรอบข้าง
สภาพแวดล้อมรอบ ๆ ที่ดินก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรตรวจสอบว่าพื้นที่ข้างเคียงมีสิ่งรบกวนหรือไม่ เช่น โรงงานอุตสาหกรรมที่ส่งเสียงดัง หรือสภาพอากาศที่มีมลพิษ หรือมีบ่อขยะอยู่ใกล้เคียงหรือไม่ สิ่งเหล่านี้อาจส่งผลต่อคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในอนาคต
10. อนาคตของพื้นที่
สุดท้าย ควรพิจารณาถึงอนาคตของพื้นที่นั้น เช่น แผนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพิ่มเติม หรือการเติบโตของเศรษฐกิจในพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลต่อความต้องการซื้อบ้านและมูลค่าที่ดินในอนาคต
การเลือกที่ดินเพื่อนำมาพัฒนาโครงการบ้านจัดสรรไม่ใช่เรื่องง่าย แต่หากเรามีการวางแผนและพิจารณาอย่างละเอียดตามขั้นตอนข้างต้น จะช่วยให้การตัดสินใจเป็นไปอย่างถูกต้องและสร้างโครงการที่มีคุณภาพ
การพิจารณาทั้ง 10 ข้อนี้สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างโครงการบ้านจัดสรรที่ประสบความสำเร็จได้อย่างมาก ใครที่กำลังคิดจะเริ่มต้นพัฒนาโครงการ อย่าลืมนำวิธีเหล่านี้ไปปรับใช้กันนะครับ
ที่มา
แนวทางการวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของโครงการ https://conc.tbs.tu.ac.th
ศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ https://www.reic.or.th/Knowledge/SuggestionHomeDetail/212