Uncategorized

ที่ว่าง 1/6 และ เส้นรอบรูปไม่น้อยกว่า 1/8 เท่า

ระยะร่นอาคารที่สร้างใน กทม L/6 และ L/8

สรุปประเด็นเรื่อง ระยะร่นอาคารที่สร้างใน กทม ตามข้อบัญญัติกรุงเทพมหานคร เรื่องควบคุมอาคาร 2544 และ พรบ ควบคุมอาคาร 2544 ข้อ52(3)(6) และข้อ 53 ดังต่อไปนี้ “ข้อ52 อาคารแต่ละหลังหรือแต่ละหนวยต้องมีที่ว่างตามที่กำหนดดังต่อไปนี้ (3) ห้องแถวหรือตึกแถว สูงไม่เกิน 3 ชั้นและไม่อยู่ริมทางถนนสาธารณะ ต้องมีที่ว่างด้านหน้าอาคารกว้างไม่น้อยกว่า 6 เมตร ถ้าสูงเกิน 3 ชั้น ต้องมีที่ว่างกว้างไม่น้อยกว่า 12 เมตร ที่ว่างนี้อาจใช้ร่วมกับที่ว่างของห้องแถวหรือตึกแถวอื่นได้ (6) อาคารพาณิชย์ โรงงานอุตสาหกรรม คลังสินค้า อาคารสาธารณะ อาคารสูงเกิน 2 ชั้นหรือสูงเกิน 8 เมตร ยกเว้นอาคารอยู่อาศัยสูงไม่เกิน 3 ชั้น ที่ไม่อยู่ริมถนนสาธารณะ ให้มีที่ว่างด้านหน้ากว้างไม่น้อยกว่า 6 เมตร อาคารตามวรรคหนึ่งถ้าสูงเกิน 3 ชั้น ให้มีที่ว่างกว้างไม่น้อยกว่า 12 เมตร ที่ว่างตามวรรคหนึ่งและวรรคสอง […]

ระยะร่นอาคารที่สร้างใน กทม L/6 และ L/8 Read More »

กฏหมายบันไดหนีไฟ 6

กฎหมายเกี่ยวกับบันไดหนีไฟ

กฎกระทรวง ฉบับที่ 55 ได้กำหนดข้อบังคับเกี่ยวกับบันไดหนีไฟเพื่อความปลอดภัยในอาคารสูง โดยมีรายละเอียดสำคัญ ดังนี้ อาคารสูงตั้งแต่ 4 ชั้นขึ้นไป (ไม่เกิน 23 เมตร) และอาคารที่สูง 3 ชั้นที่มีดาดฟ้าเหนือชั้น 3 ขนาดเกิน 16 ตารางเมตร นอกจากบันไดหลักแล้ว ต้องมีบันไดหนีไฟที่ทำจากวัสดุทนไฟอย่างน้อย 1 แห่ง โดยมีทางเดินที่ไม่มีสิ่งกีดขวางเข้าถึงได้ บันไดหนีไฟ ควรมีความลาดชันน้อยกว่า 60 องศา ยกเว้นตึกแถวหรือบ้านแถวสูงไม่เกิน 4 ชั้นสามารถมีบันไดหนีไฟที่ลาดชันเกิน 60 องศาได้ และต้องมีชานพักบันไดทุกชั้น 3. บันไดหนีไฟภายนอกอาคาร ต้องกว้างไม่น้อยกว่า 60 เซนติเมตร และมีผนังทึบที่ก่อด้วยวัสดุทนไฟ โดยหากบันไดไม่ถึงพื้นชั้นล่างต้องมีบันไดโลหะเลื่อนลงมาถึงพื้นชั้นล่างได้ 4. บันไดหนีไฟภายในอาคาร ต้องกว้างไม่น้อยกว่า 80 เซนติเมตร และมีผนังทึบที่ทำจากวัสดุทนไฟกั้นโดยรอบ มีช่องระบายอากาศที่เปิดได้ไม่น้อยกว่า 1.4 ตารางเมตรต่อชั้น พร้อมแสงสว่างเพียงพอตลอดวัน 5. ประตูหนีไฟ ต้องทำจากวัสดุทนไฟ กว้างไม่น้อยกว่า

กฎหมายเกี่ยวกับบันไดหนีไฟ Read More »

รังวัดสอบเขต -Realplus-ที่ปรึกษาอสังหาริมทรัพย์ (5)

รังวัดที่ดินคืออะไร

การรังวัดที่ดินคืออะไร       การรังวัดที่ดินคือการกำหนดขอบเขตที่แน่นอนของที่ดินตามโฉนดโดยเจ้าหน้าที่จากกรมที่ดิน ซึ่งจะช่วยให้เจ้าของที่ดินทราบแนวเขตที่ดินและป้องกันการขัดแย้งจากปัญหาการรุกล้ำที่ดินใกล้เคียง เจ้าของที่ดินควรดำเนินการรังวัดทุกๆ 10 ปี เพื่อป้องกันปัญหาการหาหมุดเขตไม่เจอ และแน่ใจว่าเนื้อที่ดินตรงตามโฉนด การรังวัดที่ดินออนไลน์       ปัจจุบันสามารถจองคิวรังวัดที่ดินออนไลน์ได้ผ่านแอปพลิเคชัน e-QLands ที่พัฒนาโดยกรมที่ดิน หรือ สามารถเข้าไปขอทำเรื่องรังวัดที่ดินได้ ณ กรมที่ดินในพื้นที่ซึ่งที่ดินนั้นตั้งอยู่ก็ได้ ประเภทของการรังวัดที่ดิน การรังวัดที่ดิน แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ได้แก่ รังวัดสอบเขต – ตรวจสอบเขตที่ดินว่าเนื้อที่ตรงตามโฉนดหรือไม่ และหาแนวหลักเขตที่ดินที่อาจหายไป หรือ ไม่สามารถหาพบ รังวัดแบ่งแยก – สำหรับแบ่งแยกที่ดินขนาดใหญ่เพื่อขายหรือแบ่งเป็นมรดก รังวัดรวมโฉนด – รวมโฉนดที่ดินแปลงที่ติดกันให้เป็นฉบับเดียวกัน ขั้นตอนการรังวัดที่ดิน ขั้นตอนการรังวัดที่ดินมีหลายขั้นตอน ตั้งแต่การยื่นคำขอที่สำนักงานที่ดิน นัดวันรังวัด แจ้งเจ้าของที่ดินข้างเคียง และชำระค่าใช้จ่าย ไปจนถึงการจดทะเบียนเพื่อปรับปรุงข้อมูลโฉนดให้ถูกต้องตามเนื้อที่จริง ค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ดิน ค่าใช้จ่ายในการรังวัดที่ดินมีหลายประเภท เช่น ค่าธรรมเนียมในการออกโฉนดและตรวจสอบเนื้อที่ รวมถึงค่าพาหนะเดินทางและค่าเบี้ยเลี้ยงของเจ้าหน้าที่ หากมีการขอรวมโฉนดหรือแบ่งแยกที่ดินเพิ่มเติม อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมขึ้นอยู่กับพื้นที่และประเภทการรังวัด ประโยชน์ของการรังวัดที่ดิน

รังวัดที่ดินคืออะไร Read More »

Realplus-ที่ปรึกษาโครงการอสังหา-Feasibility (16)

โครงการจัดสรร และไม่จัดสรร ต่างกันอย่างไร

ความแตกต่างระหว่างโครงการจัดสรรและโครงการไม่จัดสรรสามารถแบ่งออกเป็นหลายด้าน ดังนี้ 1. ด้านรูปแบบโครงการ โครงการจัดสรร เป็นโครงการที่แบ่งที่ดินเป็นแปลงย่อยตั้งแต่ 10 แปลงขึ้นไปตามพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน และมีการพัฒนาสาธารณูปโภค เช่น ถนนส่วนกลาง ระบบระบายน้ำ สวนสาธารณะ และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่น ๆ ตามที่กฎหมายกำหนด โครงการไม่จัดสรร เป็นโครงการที่มีการแบ่งแปลงที่ดินน้อยกว่า 10 แปลง หรือเป็นการพัฒนาโครงการที่ไม่ต้องปฏิบัติตามข้อกำหนดในพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน ทำให้สามารถพัฒนาและขายได้เร็วกว่า โดยไม่มีข้อบังคับเรื่องพื้นที่ส่วนกลาง 2. ขนาดที่ดิน โครงการจัดสรร มีกำหนดขนาดขั้นต่ำของแปลงที่ดินที่ขาย เช่น บ้านเดี่ยวจะต้องมีขนาดที่ดินไม่น้อยกว่า 50 ตารางวา บ้านแฝด 35 ตารางวา และทาวน์เฮาส์ 16 ตารางวา โครงการไม่จัดสรร ไม่มีข้อกำหนดเกี่ยวกับขนาดที่ดินขั้นต่ำ ดังนั้นนักพัฒนาสามารถแบ่งแปลงที่ดินตามความเหมาะสมได้โดยไม่มีข้อบังคับจากกฎหมาย 3. กฎหมายที่เกี่ยวข้อง โครงการจัดสรร ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน พ.ศ. 2543 และข้อกำหนดเกี่ยวกับการพัฒนาสาธารณูปโภคและพื้นที่ส่วนกลาง รวมถึงต้องขออนุญาตจัดสรรที่ดินจากหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง โครงการไม่จัดสรร ไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน แต่ต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการก่อสร้าง 4. พื้นที่ส่วนกลาง โครงการจัดสรร จะต้องมีการจัดสรรพื้นที่ส่วนกลาง เช่น สวนสาธารณะ

โครงการจัดสรร และไม่จัดสรร ต่างกันอย่างไร Read More »

Realplus-ที่ปรึกษาโครงการอสังหา-Feasibility (16)

ขั้นตอนการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร

การพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร ต้องใช้ความรู้ความสามารถในหลายด้าน ตั้งแต่การวางแผน การออกแบบ การก่อสร้าง ไปจนถึงการขายและการตลาด ดังนั้น ก่อนตัดสินใจลงทุน ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจขั้นตอนต่างๆ ดังนี้ 1. การกำหนดแนวคิดริเริ่มโครงการ (Project Initiation)       ขั้นตอนแรกในการพัฒนาโครงการ คือการกำหนดแนวคิดหลักหรือแนวทางของโครงการ นักพัฒนาจะต้องทำการวิจัยและวิเคราะห์ว่าลูกค้ากลุ่มเป้าหมายคือใคร และพวกเขามีความต้องการอะไรบ้าง ข้อมูลเหล่านี้จะถูกนำมาใช้ในการเลือกรูปแบบของโครงการ เช่น ขนาดบ้าน สไตล์การออกแบบ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่เหมาะสม 2. การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ (Project Feasibility Study) เป็นการตรวจสอบความเป็นไปได้ในด้านต่าง ๆ เช่น ด้านตลาด สำรวจความต้องการและสภาวะการแข่งขันในตลาด รวมถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ด้านกายภาพและกฎหมาย วิเคราะห์ทำเลที่ดิน รูปทรงของที่ดิน การเข้าถึง ความเป็นไปได้ในการพัฒนา และข้อบังคับทางกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ด้านการเงิน ประมาณการต้นทุน ค่าก่อสร้าง และผลตอบแทนทางการเงิน เพื่อประเมินว่าคุ้มค่าต่อการลงทุนหรือไม่ 3. การจัดหาที่ดิน (Land Acquisition)       เป็นการจัดหาที่ดินที่มีคุณสมบัติเหมาะสมตามแนวคิดของโครงการ การสำรวจและวิเคราะห์ศักยภาพของที่ดิน รวมถึงการเจรจาต่อรองราคากับเจ้าของที่ดิน

ขั้นตอนการพัฒนาโครงการบ้านจัดสรร Read More »