แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล (ปี 2567-2569)
- คาดว่าธุรกิจที่อยู่อาศัยจะเติบโตอย่างค่อยเป็นค่อยไป โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของกำลังซื้อผู้บริโภค ตามทิศทางเศรษฐกิจที่เติบโตระดับ 3-4% ต่อปี
- โครงการลงทุนต่อเนื่องของภาครัฐโดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคม เช่น การขยายเส้นทางรถไฟฟ้า จะกระตุ้นความต้องการที่อยู่อาศัยตามแนวรถไฟฟ้าและพื้นที่ที่รถไฟฟ้าเข้าถึง
- การเติบโตของภาคท่องเที่ยว ช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของชาวต่างชาติ ทั้งเพื่อลงทุนและเป็นบ้านหลังที่สอง
- การเข้ามาลงทุนหรือทำงานในไทยของชาวต่างชาติ (Expatriates) ทำให้มีความต้องการที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น
ปัจจัยท้าทายของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
- ต้นทุนการเงินที่ปรับขึ้นตามทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ
- ภาระหนี้ครัวเรือนที่ยังคงสูงต่อเนื่อง ทำให้ผู้บริโภคระมัดระวังการก่อหนี้ในระยะยาว
- การเพิ่มความเข้มงวดของสถาบันการเงินในการขยายสินเชื่อ
- อุปทานเหลือขายที่สะสมสูงในบางพื้นที่ ทำให้การกำหนดราคาขายอาจทำได้จำกัด
แนวโน้มยอดขายที่อยู่อาศัย
- วิจัยกรุงศรีประเมินว่ายอดขายที่อยู่อาศัยจะทยอยฟื้นตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไปที่ระดับ 2-3% ต่อปี
- ยูนิตเปิดขายใหม่จะเพิ่มขึ้นในระดับ 3-4% ต่อปี แต่ยังคงต่ำกว่าระดับเฉลี่ยในช่วงปี 2560-2562 ส่วนใหญ่จะเป็นโครงการจากผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีฐานเงินทุนแข็งแกร่ง
แนวโน้มการพัฒนาโครงการใหม่
- ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับการพัฒนาบ้านแนวราบที่รองรับลูกค้าระดับกลางบน-บน และเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตไม่มาก
- โครงการแนวสูงจะขยายตัวตามแนวเส้นทางรถไฟฟ้าซึ่งรวมถึงส่วนต่อขยาย โดยมุ่งเน้นการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกเพื่อจูงใจผู้ซื้อ เช่น การใช้พลังงานสะอาด การติดตั้ง EV Charger และโซลาร์เซลล์
ข้อสรุปสำคัญ
- ตลาดอสังหาริมทรัพย์ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล คาดว่าจะมีการฟื้นตัวอย่างช้าๆ โดยได้รับอานิสงส์จากปัจจัยสนับสนุนหลายด้านทั้งภายในและภายนอกประเทศ แต่ก็มีปัจจัยเสี่ยงจากภาระหนี้สินและต้นทุนการเงินที่สูงขึ้น
- การเปิดตัวโครงการใหม่ จะเพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 3-4% หรือประมาณ 96,000 ยูนิตต่อปี โดยเน้นโครงการจากผู้ประกอบการรายใหญ่
- การฟื้นตัวของกำลังซื้อจากต่างชาติ มีความสำคัญต่อการสนับสนุนตลาดอสังหาริมทรัพย์ในช่วงปี 2567-2569
ที่มา : วิจัยธนาคารกรุงศรี
Post Views: 123